ในยุคที่ซีรีส์และภาพยนตร์เกาหลีเข้ามามีบทบาทอย่างสูงในวงการบันเทิงระดับโลก “Squid Game” นับเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ที่ทำให้ผู้คนทุกมุมโลกหันมาให้ความสนใจกับเนื้อหา การเล่าเรื่อง และการสะท้อนสังคมแบบเรียลๆ ของเกาหลีใต้ได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากซีซั่นแรกได้รับเสียงตอบรับท่วมท้น หลายคนตั้งตารอซีซั่นสองว่าจะเซอร์ไพรส์มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะการเปิดตัวผู้เล่นชุดใหม่ ที่อาจเข้ามามีบทบาทสำคัญหรือเปลี่ยนทิศทางเกมครั้งใหม่นี้อย่างไม่อาจคาดเดาได้ หนึ่งในตัวละครที่ถูกพูดถึงอย่าง “ผู้เล่น 196” หรือ “ซงจีอู” จึงกลายเป็นประเด็นร้อนว่าเขาจะทำให้เกมลุ้นตายแห่งนี้ยิ่งเร้าใจได้อย่างไร
ทำความรู้จัก “ซงจีอู” หรือ ผู้เล่น 196 คือใคร?
ในซีซั่นแรกของ Squid Game เราได้เห็นตัวละครหลักอย่าง ซองกีฮุน (ผู้เล่น 456) โชว์บทบาทสำคัญที่ทำให้ผู้ชมทั่วโลกหยุดหายใจตาม กระทั่งกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของการดิ้นรนในสังคมปัจจุบัน ส่วนซีซั่นสองนี้ ดูเหมือนว่าผู้กำกับ ฮวังดงฮยอก (Hwang Dong-hyuk) จะเพิ่มสีสันด้วยการขยายสเกลของเรื่องราว ให้เราได้เห็นตัวละครใหม่ที่มีทั้งเบื้องลึกเบื้องหลังหลากหลายมากขึ้น รวมถึง “ซงจีอู” หรือที่คนติดตามข้อมูลวงในบางส่วนเรียกเขาว่า “ผู้เล่น 196” นั่นเอง
ความน่าสนใจคือก่อนหน้านี้ แทบไม่มีใครรู้จักชื่อ “ซงจีอู” เพราะไม่ใช่นักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก่อน แตกต่างจากนักแสดงมืออาชีพคนอื่นที่ถูกเปิดเผยออกมาในการโปรโมตเบื้องต้น แหล่งข่าวบางแห่งคาดการณ์ว่า การที่ “ซงจีอู” ไม่ได้ถูกโปรโมตมาก อาจเป็นเพราะเขาไม่ใช่แค่ตัวละครประกอบทั่วไป แต่คือ “จุดหักเห” สำคัญของโครงเรื่องในซีซั่นที่สอง อีกทั้งอาจเป็นกลยุทธ์ของทีมงานที่ต้องการให้ผู้ชมได้เซอร์ไพรส์เมื่อซีรีส์ออกอากาศจริง
อย่างไรก็ตาม คนที่อยากรู้เรื่องราวของ “ซงจีอู” อาจได้เห็นเพียงชื่อและหมายเลขผู้เล่น 196 ซึ่งในบริบทของ Squid Game หมายเลขผู้เล่นมีนัยยะเชิงสัญลักษณ์บางอย่าง เช่น ในซีซั่นแรก ผู้เล่น 456 (ซองกีฮุน) เป็นตัวแทนของคนที่อยู่ปลายสุดของสังคม แต่ยังมีความหวัง ขณะที่ผู้เล่น 001 (โออิลนัม) สะท้อนมุมมองที่ไม่คาดคิดว่าผู้เล่นอายุมากสุดกลับเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ดังนั้น เมื่อมีการพูดถึง “ผู้เล่น 196” หลายคนจึงคาดเดาว่าตัวเลขนี้อาจสื่อถึงสถานะ ช่วงอายุ หรือฐานะบางอย่างของตัวละครได้ด้วย
มีข่าวลือว่า “ซงจีอู” เป็นตัวละครที่เคยผ่านชีวิตยากลำบากและสะสมความเครียดทางจิตใจมาหลายปี ทำให้เขาเข้าร่วม Squid Game ในซีซั่นที่สองด้วยเหตุผลที่ไม่ธรรมดา อาจไม่ใช่แค่ต้องการเงินรางวัล แต่เป็นการทวงความยุติธรรมบางอย่าง หรืออาจมาเพื่อร่วมมือกับใครบางคน ซึ่งนี่เป็นเพียงการคาดการณ์จากกลุ่มแฟนซีรีส์ที่พยายามปะติดปะต่อข้อมูลจากเทรลเลอร์ โปรโมชัน และบทสัมภาษณ์สั้นๆ ของทีมงานเท่านั้น
ประวัตินักแสดง: ซงจีอูเป็นใครในวงการบันเทิง?
หากค้นข้อมูลเชิงลึก ชื่อ “ซงจีอู” ในวงการบันเทิงเกาหลีอาจเป็นชื่อใหม่ที่ยังไม่สะดุดตา เพราะเขาไม่ได้มีผลงานซีรีส์ดังหรือภาพยนตร์กระแสหลักมาก่อน เชื่อว่าเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งเซ็นสัญญากับเอเจนซีที่ไม่ใหญ่มากนัก จุดพลิกผันน่าสนใจคือได้รับโอกาสครั้งใหญ่ในการร่วมแสดงใน Squid Game 2 ซึ่งนับเป็นการเปิดตัวในระดับโลกทันที
ในมุมที่น่าสังเกต ผู้กำกับฮวังดงฮยอกเคยมีประวัติว่า ชอบเฟ้นหา “นักแสดงหน้าใหม่” หรือ “นักแสดงที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก” เพื่อสวมบทที่ท้าทายหรือเรียลที่สุดในงานของเขา ส่วนหนึ่งเพื่อให้ผู้ชมสัมผัสกับตัวละครได้สดใหม่ และบางครั้งก็เพื่อให้ตัวละครนั้นดูไม่ซ้ำซ้อนกับภาพลักษณ์เดิมของนักแสดงชื่อดัง ในซีซั่นแรกเองก็มีทั้งนักแสดงมืออาชีพที่โด่งดัง (อย่าง อีจองแจ, พัคแฮซู, วีฮาจุน) และนักแสดงหน้าใหม่ที่กลายเป็นที่รู้จักอย่าง จองโฮยอน ที่รับบทเป็นผู้เล่นหมายเลข 067 จนโด่งดังเป็นพลุแตก ดังนั้น การที่ “ซงจีอู” ได้มีโอกาสปรากฏตัวใน Squid Game 2 จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจในเชิงกลยุทธ์การคัดเลือกนักแสดงของผู้กำกับ
เรื่องราวที่คาดการณ์ได้จากข้อมูลแวดล้อม
ถึงแม้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนมากว่า “ซงจีอู” จะมีโครงเรื่องหรือเส้นทางในเกมลุ้นตายอย่างไร แต่จากตัวอย่างบางส่วนและคำใบ้จากทีมงาน ก็พอจะวิเคราะห์ได้ว่า ในซีซั่นใหม่นี้ นอกจากการแข่งเกมเอาชีวิตรอดสุดโหดแล้ว อาจมีประเด็นใหม่ที่เน้นหนักไปที่ “การสมรู้ร่วมคิด” หรือ “การเผชิญกับความจริงที่เกินจะรับได้” ซึ่งผู้เล่น 196 หรือ ซงจีอู อาจเป็นตัวละครที่เข้มข้นทั้งแง่จิตวิทยาและแง่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกม
แฟนๆ หลายคนคาดการณ์ว่า “ซงจีอู” อาจเข้ามาเป็นผู้ร่วมมือหรือคู่อริกับผู้เล่นคนเก่าจากซีซั่นแรก โดยเฉพาะผู้เล่น 456 ที่อาจกลับมาในซีซั่นสองในฐานะตัวละครหลักเช่นเดิม การจับคู่ระหว่างนักแสดงชื่อดังอย่าง อีจองแจ กับนักแสดงหน้าใหม่อย่าง ซงจีอู จึงน่าจะเป็นเคมีที่น่าติดตามอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ ข้อมูลที่หลุดออกมาส่วนหนึ่งยังระบุว่า ทีมงานต้องการเพิ่มความซับซ้อนของเกมให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการแข่งขันที่หลากหลาย หรือกฎกติกาที่บิดเบี้ยวกว่าเดิม เหล่าผู้เล่นอาจไม่สามารถวางใจใครได้อีกต่อไป แม้แต่เพื่อนร่วมเกมที่ดูเหมือนจะเป็นมิตรแท้ ดังนั้นหาก “ซงจีอู” เป็นคนที่มีปูมหลังรุนแรง หรือแบกความแค้นบางอย่าง เขาอาจเป็น “ไพ่ตาย” หรือ “ตัวป่วน” ที่ทำให้กลุ่มผู้เล่นปั่นป่วนไปหมดก็เป็นได้

ย้อนรอยความสำเร็จและแง่มุมที่ทำให้ Squid Game เป็นตำนาน
ก่อนจะไปลงลึกในตัวละครผู้เล่น 196 เรามาย้อนรอยปรากฏการณ์ “Squid Game” ซีซั่นแรกกันสักเล็กน้อย เพราะในโลกของการทำคอนเทนต์ยุคปัจจุบัน มีผลงานไม่กี่เรื่องที่แจ้งเกิดในระดับสากลและสร้างความฮือฮาได้เทียบเท่ากับ Squid Game ของ Netflix
ปรากฏการณ์ระดับโลก
ย้อนกลับไปเมื่อ Squid Game ซีซั่นแรกเปิดตัวในปี 2021 ไม่มีใครคาดคิดว่าซีรีส์สัญชาติเกาหลีเรื่องนี้จะครองตำแหน่งซีรีส์ที่มีคนดูมากที่สุดใน Netflix ได้อย่างถล่มทลาย ทั้งที่ตัวเรื่องมีความรุนแรงทางอารมณ์และภาพการเสียชีวิตของตัวละครหลายฉาก แต่กลับกลายเป็นว่าคนทั่วโลกรู้สึกเชื่อมโยงได้อย่างประหลาด เนื่องจากโครงสร้างของเรื่องราวสะท้อนภาพความเหลื่อมล้ำของสังคม การดิ้นรนหาเงิน และความกดดันทางเศรษฐกิจที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้
ในแง่การผลิต Squid Game ซีซั่นแรกก็โดดเด่นด้วยองค์ประกอบศิลป์ ตั้งแต่เสื้อผ้าสีชุดเขียว ชุดชมพู ดีไซน์หน้ากากที่เป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงสนามแข่งเกมที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์เด็กเล่นอย่าง “เกมปลาหมึก” “แกะน้ำตาล” “ดีดลูกแก้ว” และ “สะพานกระจก” ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจ และยังตีแผ่ด้านมืดของจิตใจมนุษย์เวลาต้องเอาชีวิตรอด
ปัจจัยสู่ความสำเร็จ
- บทภาพยนตร์แข็งแรง: บท Squid Game ค่อนข้างสมจริงในการสะท้อนสังคมที่คนธรรมดาต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด การที่ผู้กำกับพยายามเล่าเรื่องผ่านเกมเด็กเล่น แต่กลับตั้งกติกาที่โหดเหี้ยม เป็นการเปรียบเปรยถึงความเหลื่อมล้ำที่คนจนหรือคนหมดหวังไม่มีทางเลือกอื่นในชีวิต
- ตัวละครเข้มข้น: แต่ละตัวละครมีที่มาที่ไปชัดเจน เมื่อทั้งหมดต้องมารวมตัวในเกมที่มีเงินรางวัลมหาศาลเป็นเดิมพัน ความโลภ ความไว้เนื้อเชื่อใจ การทรยศ และมิตรภาพระหว่างตัวละครถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างลึกซึ้ง
- ความแปลกใหม่: การนำเกมเด็กเล่นมาปรับเป็นเกมตาย กลายเป็นคอนเซปต์ที่ตื่นเต้นสำหรับผู้ชมทั่วโลก ได้เห็นว่าเกมบ้านๆ ที่คุ้นเคยในสมัยเด็กก็กลายเป็นเกมเขย่าประสาทได้ หากถูกเติมกติกาตายตัวและเดิมพันด้วยชีวิต
- เข้าถึงง่าย: แม้ตัวเรื่องจะมีกลิ่นอายวัฒนธรรมเกาหลีสูง แต่ประเด็นเรื่องชนชั้น สังคม ระบบทุน ก็เป็นประเด็นสากลที่ผู้คนหลากหลายชาติต่างประเทศเข้าใจได้ไม่ยาก
ด้วยเหตุนี้ Squid Game ซีซั่นแรกจึงแจ้งเกิดอย่างยิ่งใหญ่ และพอ Netflix ประกาศทำซีซั่นสอง แฟนๆ ก็ยิ่งตื่นเต้นว่า พล็อตเรื่องจะมีลูกเล่นใหม่แบบไหน ใครจะกลับมา ใครจะหายไป และโดยเฉพาะใครคือผู้เล่นปริศนาที่จะเข้ามาปั่นป่วนเกม
ทำไม “ซงจีอู” ถึงเป็นที่จับตา?
การปรากฏของ “ซงจีอู” ในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ที่ถูกวางตัวเป็นผู้เล่นคนสำคัญ ทำให้เกิดกระแสความสงสัยว่าเขามีดีอะไร และผู้กำกับเห็นอะไรในตัวเขาถึงกล้าให้บทบาทที่น่าจะสำคัญไม่แพ้ตัวละครอื่นๆ มีข่าวลือบางแหล่งกล่าวว่า ทีมงานพูดถึงเขาในแง่ของ “การแสดงสีหน้าและอารมณ์ที่ทรงพลัง” อีกทั้งยังมีความสามารถในการถ่ายทอดความเจ็บปวดทางอารมณ์ได้สมจริง ทำให้คาแรกเตอร์ผู้เล่น 196 อาจเป็นตัวละครที่เข้มข้นและสะเทือนอารมณ์ผู้ชมแบบเหนือความคาดหมาย
แม้จะไม่มีประสบการณ์ร่วมงานในซีรีส์ดังมาก่อน แต่จากเสียงเล่าขานของคนที่เคยเห็นเขาแสดงในละครเวทีระดับมหาวิทยาลัย ก็บอกว่า “ซงจีอู” มีบุคลิกโดดเด่น สามารถทำให้ผู้ชมเชื่อว่าตัวละครนั้นมีชีวิตจริงๆ ตั้งแต่อากัปกิริยาเล็กๆ ไปจนถึงฉากที่ต้องแสดงความรู้สึกสุดขั้ว พอผนวกกับความทะเยอทะยานของผู้กำกับฮวังดงฮยอก ที่ต้องการให้ซีซั่นสองพาผู้ชมเข้าสู่มิติทางจิตใจมากขึ้น ก็ยิ่งตอกย้ำว่า “ผู้เล่น 196” อาจรับบทเป็นกระดูกสันหลังของโครงเรื่องพอๆ กับตัวละครหลักคนอื่นในซีซั่นใหม่
คาดการณ์บทบาทและทิศทางของ “ผู้เล่น 196” ใน Squid Game 2
1. ตัวแทนของความแค้นและความยุติธรรม
ในซีซั่นแรก ตัวละครหลักหลายตัวเข้าร่วมเกมเพราะปัญหาการเงินที่รุมเร้า หรือเพราะไม่เหลืออะไรให้เสียแล้ว แต่ในซีซั่นสองมีการคาดการณ์ว่าจะเปิดพื้นที่เหตุผลที่หลากหลายขึ้น บางคนอาจเข้ามาเพื่อล้างแค้น บางคนต้องการทวงความยุติธรรม หรือบางคนอาจกลับมาเพื่อเปิดโปงความลับของเกม ซึ่งหนึ่งในประเด็นน่าสนใจคือ “ผู้เล่น 196” หรือ “ซงจีอู” อาจเป็นตัวละครที่ผลักดันเส้นเรื่อง “ความแค้น” (Revenge) หรือการเรียกร้องอะไรบางอย่างจากฝั่งทีมงานผู้จัดเกม เพราะมีเบาะแสว่าก่อนหน้านี้ เขาอาจสูญเสียคนรักหรือครอบครัวไปจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลทรงอิทธิพลเบื้องหลังเกม ซึ่งทำให้เขาต้องเข้าสู่การแข่งขันเพื่อแก้ไขบางสิ่ง
2. พันธมิตรหรือตัวร้ายในคราบมิตร
ในภาคแรก เราได้เห็นการจับมือกันระหว่างผู้เล่นบางกลุ่มเพื่อเอาชีวิตรอด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มซองกีฮุนกับเพื่อนสนิทกลุ่มหนึ่ง ขณะที่อีกกลุ่มก็มีลักษณะพวกมากลากไป มีการหักหลังในช่วงท้ายๆ ซึ่งทำให้เกมดราม่าและเข้มข้นมากขึ้น สำหรับซีซั่นสอง ก็ไม่น่าพลาดที่จะมีการสร้างปมการรวมตัวของผู้เล่นใหม่เพื่อช่วยกันฝ่าด่านเกมอันแสนโหด เพราะแต่ละด่านจะผ่านไปคนเดียวก็ได้ยากเต็มที อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้สูงว่า “ซงจีอู” หรือผู้เล่น 196 อาจเป็นคีย์ที่ทำให้เกมพลิก จากการเป็นมิตรกลายเป็นศัตรู หรือจากการเป็นคนที่ดูไว้ใจได้ อาจกลายเป็นคนที่แทงข้างหลังเพื่อนผู้เล่นอีกครั้ง สะท้อนปมทางจิตใจที่สลับซับซ้อนและย้อนแย้งว่า ในเกมเดิมพันชีวิต ไม่มีใครที่ไม่เห็นแก่ตัวเพื่อเอาตัวรอด
3. ความสามารถพิเศษที่อาจทำให้เขาโดดเด่น
ในเกม Squid Game การเอาตัวรอดไม่ได้หมายถึงความแข็งแรงทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทักษะทางความคิด ความฉลาดแกมโกง การเจรจา และการวางแผน แน่นอนว่าผู้เล่น 456 อย่างซองกีฮุนเคยแสดงศักยภาพเรื่องการเอาตัวรอดและความเป็นผู้นำมาแล้ว หากในซีซั่นสอง “ผู้เล่น 196” มีความสามารถพิเศษบางอย่าง เช่น การวางกลยุทธ์หรืออ่านใจคนได้ดี เขาอาจขึ้นแท่นเป็นตัวละครคู่ปรับหรือมิตรสหายที่ไม่น่าไว้ใจของตัวละครหลักได้ไม่ยาก แฟนๆ จึงจับตาว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ซีรีส์ฉาย เราจะเห็นการชิงไหวชิงพริบระหว่างสองตัวละครนี้อย่างดุเดือด
4. ขยายโลกของ Squid Game ให้กว้างขวางกว่าเก่า
อีกหนึ่งประเด็นที่ซีซั่นสองน่าจะเน้นย้ำคือการขยาย “โลกของ Squid Game” ให้ไม่ถูกจำกัดอยู่แค่ในพื้นที่การเล่นเกม แต่อาจเปิดเผยฉากหลังขององค์กรที่จัดเกมมากขึ้น เราอาจได้เห็นเรื่องราวการคัดเลือกผู้เล่นจากหลายประเทศ หรือแม้แต่ความเชื่อมโยงกับปมอดีตของตัวละครหลักๆ ผู้กำกับฮวังดงฮยอกเคยให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้ซีซั่นสองมีความยิ่งใหญ่ทั้งในแง่ของฉาก เกม และแง่มุมที่ลงลึกในองค์กรมากกว่าแค่การเล่นเกมในสนาม แต่จะมีผลต่อโครงเรื่องอย่างไรบ้าง ยังไม่มีใครยืนยันได้
อย่างไรก็ดี จุดที่น่าสนใจคือ “ซงจีอู” หรือผู้เล่น 196 อาจเป็นหนึ่งใน “คีย์แมน” ที่เกี่ยวพันกับองค์กรผู้จัดเกม ไม่ว่าจะด้วยการเป็นอดีตผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไม่ตั้งใจ หรืออาจมีเครือข่ายบางอย่างที่เข้าถึง “Front Man” หรือบุคคลระดับสูง ยิ่งไปกว่านั้น ถ้า “ซงจีอู” มีข้อมูลลับเกี่ยวกับเกมหรือวิธีการทำงานขององค์กร มันจะสร้างความได้เปรียบให้เขาเหนือผู้เล่นคนอื่น และกระตุ้นความสงสัยของผู้ชมที่อยากเจาะลึกปริศนาอันดำมืดนี้
5. ความสัมพันธ์กับตัวละครเก่า
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้แฟนๆ เฝ้ารอซีซั่นสอง ก็คือการได้เห็นเส้นทางของตัวละครหลักจากภาคแรก ว่าหลังจบเกมแล้วชีวิตพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างไร ขณะเดียวกันการผูกโยงตัวละครใหม่กับตัวละครเก่าก็จะทำให้เนื้อเรื่องมีมิติมากขึ้น ไม่แน่ว่า “ซงจีอู” อาจเป็นเพื่อนเก่าของใครบางคน เป็นญาติ หรือแม้แต่เป็นคนรักของตัวละครที่ถูกฆ่าในซีซั่นแรก (เช่น ผู้เล่น 067 หรือคนอื่นๆ) ทำให้การปรากฏตัวของเขาเต็มไปด้วยแรงกระตุ้นเพื่อแก้แค้น หรือสานต่อคำสัญญาบางอย่าง นี่จะยิ่งทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้นเพราะมีความเกี่ยวพันทางอารมณ์อย่างลึกซึ้ง
แฟนคลับในโซเชียลบางกลุ่มได้วิเคราะห์การจัดวางตัวละครของผู้กำกับไว้ว่า “ใน Squid Game 1 เราได้เห็นกระบวนการเปิดเผยโลกทัศน์พื้นฐานของเกม แต่ใน Squid Game 2 จะเป็นการต่อยอดเรื่องราวผ่านสายสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับคนที่ยังมีชีวิตและคนที่เสียไปแล้ว” ดังนั้น การถือกำเนิดของผู้เล่น 196 น่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน
